ในปัจจุบัน สถานศึกษาในระดับอุดมศึกษาต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการจัดหาและบริหารจัดการรายได้เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนในการดำเนินงาน เนื่องจากงบประมาณที่ได้รับจากภาครัฐมีข้อจำกัดและไม่เพียงพอต่อการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านวิชาการ การวิจัย และการบริการวิชาการแก่สังคม จากรายงานของสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พบว่า สถาบันอุดมศึกษาของรัฐมากกว่าร้อยละ 70 มีการพึ่งพิงงบประมาณจากภาครัฐเป็นหลัก ขณะที่สถาบันที่สามารถจัดหารายได้จากแหล่งอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมีแนวโน้มที่จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดและตอบสนองต่อความต้องการของสังคมได้ดียิ่งขึ้น

       สำหรับวิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ซึ่งมีพันธกิจในการผลิตบัณฑิต พัฒนางานวิจัย และให้บริการวิชาการแก่ชุมชน จำเป็นต้องมีแนวทางการจัดหารายได้ที่หลากหลายและยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบคือ รูปแบบการจัดหารายได้ที่มีอยู่ยังขาดความเป็นระบบ ขาดการบูรณาการองค์ความรู้และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างบุคลากร อีกทั้งยังมีความต้องการในการพัฒนาแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับการดำเนินงานในอนาคต การจัดการความรู้ (Knowledge Management: KM) จึงเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้การจัดหารายได้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายของวิทยาลัย

      ดังนั้น การดำเนินงานจัดการความรู้ของวิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ ในเรื่อง “รูปแบบการจัดหารายได้” จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อรวบรวม วิเคราะห์ และพัฒนารูปแบบการหารายได้ที่เหมาะสมต่อบริบทของสถาบัน อีกทั้งยังเป็นแนวทางในการสร้างความเข้มแข็งทางการเงิน สนับสนุนการพัฒนางานวิชาการและงานบริการสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเป็นประโยชน์ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่บุคลากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในภาพรวม