กระบวนการเปิดรายวิชาและหลักสูตรระยะสั้นในระบบคลังหน่วยกิต : กองบริการการศึกษา สำนักงานอธิการบดี

        การจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาและการพัฒนาทักษะของกำลังแรงงานได้เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด ทั้งจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงความต้องการของตลาดแรงงานที่มีความซับซ้อนและผันผวนมากขึ้น นโยบายด้านการศึกษาของประเทศไทยจึงต้องปรับตัวเพื่อสร้างระบบที่ยืดหยุ่น สามารถตอบสนองผู้เรียนทุกช่วงวัย และเชื่อมโยงกับความต้องการของตลาดแรงงานในระดับประเทศและระดับสากล

          หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ได้รับความสนใจ คือ การเปิดรายวิชาและหลักสูตรระยะสั้นในระบบคลังหน่วยกิต (Credit Bank System) ที่มุ่งเน้นการเรียนรู้แบบยืดหยุ่น สะสมผลการเรียน และนำไปใช้ประโยชน์ต่อยอดได้จริง 1) นโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวง อว. ได้ประกาศนโยบายและยุทธศาสตร์สำคัญเกี่ยวกับ Micro-credentials และ การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ตาม ยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561–2580) ซึ่งมุ่งเน้นให้สถาบันอุดมศึกษาสามารถจัดการศึกษาได้อย่างยืดหยุ่น ตอบสนองผู้เรียนทุกช่วงวัย และสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่แท้จริง นโยบายดังกล่าวสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับ Upskill – Reskill – Newskill เพื่อเพิ่มศักยภาพแรงงานให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและตลาดแรงงาน เช่น การเรียนรู้ในรูปแบบ Micro-credentials ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนเฉพาะทักษะที่จำเป็น โดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเรียนทั้งหลักสูตรปริญญา ขณะเดียวกันยังเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต 2) ความจำเป็นในการตอบสนองตลาดแรงงาน ตลาดแรงงานในศตวรรษที่ 21 มีพลวัตและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จากการเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ ระบบอัตโนมัติ พลังงานสีเขียว และเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม ทำให้หลายอาชีพถูกแทนที่หรือปรับเปลี่ยน ขณะเดียวกันก็เกิดอาชีพใหม่ ๆ ที่ต้องการทักษะเฉพาะด้านอย่างรวดเร็ว  

          ดังนั้น การเปิดรายวิชาและหลักสูตรระยะสั้นในระบบคลังหน่วยกิตจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ เพราะสามารถออกแบบให้ตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการได้โดยตรง ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนในสิ่งที่ตลาดแรงงานต้องการและนำไปใช้ทำงานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น Digital Skills, Green Skills, Soft Skills, Entrepreneurial Skills หรือทักษะสาขาเฉพาะ เช่น การเขียนโปรแกรม การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการจัดการพลังงานการตอบสนองความต้องการตลาดแรงงานยังช่วยลดช่องว่างระหว่างการศึกษาและการทำงาน (Education-Employment Gap) ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำคัญของระบบอุดมศึกษาไทย 3) การพัฒนาเครดิตการเรียนรู้ในคลังหน่วยกิตแห่งชาติ (National Credit Bank) แนวคิด National Credit Bank เป็นกลไกสำคัญที่สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการสร้างความยืดหยุ่นทางการศึกษา โดยทำหน้าที่เป็นระบบกลางในการจัดเก็บ ตรวจสอบ และรับรองผลการเรียนรู้ของผู้เรียนจากสถาบันต่าง ๆ ทั้งจากการศึกษาในระบบ การเรียนนอกระบบ และการเรียนรู้ตามอัธยาศัยการพัฒนาคลังหน่วยกิตแห่งชาติมีความสำคัญในหลายมิติ ได้แก่ มิติด้านการจัดการศึกษา : ทำให้ผู้เรียนสามารถสะสมหน่วยกิตจากรายวิชาและหลักสูตรระยะสั้นจากหลายสถาบัน และนำไปเทียบโอนเป็นคุณวุฒิทางการศึกษาได้ มิติด้านความเท่าเทียม : เปิดโอกาสให้ผู้เรียนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา คนทำงาน ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ว่างงาน ได้เข้าถึงการศึกษาและใช้ผลการเรียนรู้ที่สะสมไว้ต่อยอดในอนาคต มิติด้านมาตรฐานคุณภาพ : ระบบกลางสร้างความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และสร้างมาตรฐานการยอมรับผลการเรียนรู้

        ดังนั้น การเปิดรายวิชาและหลักสูตรระยะสั้นในระบบคลังหน่วยกิต (Credit Bank System) จึงเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาคลังหน่วยกิต เพราะทุกวิชาที่เปิดสอนจะถูกบันทึกและสะสมเข้าสู่ระบบกลาง ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมี “ทุนทางการศึกษา” ที่สามารถนำไปใช้พัฒนาอาชีพหรือต่อยอดการศึกษาตามเส้นทางของตนเอง